Festival de Tiji เทศกาลทิจิ
Le 4 mai, nous assistons au festival dans l’après midi pour le deuxième jour. Ils offrent des écharpes et du thé uniquement aux étrangers. Je ne comprends pas pourquoi les népalais ne peuvent pas les prendre. J’ai failli ne pas en avoir car je leur ressemble. Nous montons sur un toit pour mieux voir le spectacle. Il fait très froid à cause du vent. Donc, nous restons jusqu’à 17h.
ในตอนบ่ายของวันที่ 4 พฤษภาคม เราไปเทศกาล Tiji (Tenchi) ที่มีขึ้นเป็นวันที่สอง มีการแจกผ้าพันคอและชาให้ชาวต่างชาติเท่านั้น เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชาวเนปาลไม่ได้ ตอนแรกเราก็เกือบจะไม่ได้เหมือนกันเพราะเค้าคิดว่าเราเป็นชาวเนปาล ด้วยความที่คนเยอะมาก มองไม่ค่อยเห็นการแสดง เราจึงขึ้นไปบนดาดฟ้า ซึ่งยิ่งสูง อากาศค่อนข้างหนาวและลมแรง รูปที่ได้มาก็จะเป็นรูปมุมสูงอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่า เจ๋งป๊ะล้าาา เราอยู่บนนั้นจนถึง 5 โมงครึ่งก็กลับที่พัก
Pour le dîner, nous rejoignons le groupe de touristes français au camping. J’ai l’occasion de goûter le café Mustang fait avec du beurre et de l’alcool local (on dirait un Irish coffee de qualité très médiocre lol). Ensuite, ils nous servent la soupe, Dal Bat et la viande de brebis. C’est la première fois que nous allons manger de la viande pendant ce trek. Il y a un monsieur qui n’en mange pas car il la voit encore vivante quand le guide l’a acheté. Malheureusement, je l’ai déjà goûté.
สำหรับอาหารเย็นวันนี้ เราจะไปทานกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เราเดินไปแคมป์ของพวกเค้าตอนหนึ่งทุ่ม เมื่อไปถึง เราก็เห็นเต๊นท์ใหญ่ ซึ่งทุกคนอยู่ในเต๊นท์กันเรียบร้อยแล้ว เราได้มีโอกาสลองชิม Mustang Café (กาแฟมุสตาง ที่ไม่ได้มีแต่กาแฟ) ซึ่งถือว่าเป็นเหล้าเรียกน้ำย่อย ทำมาจากเนยและเหล้าท้องถิ่นของที่นี่ รสชาติก็คล้ายๆกับไอริชคอฟฟี่ แต่คุณภาพเหล้าต่างกันเยอะ หลังจากนั้นเค้าก็เสิร์ฟซุป ต่อด้วยอาหารจานหลัก แน่นอนนั่นก็คือ ดาล บัท แต่คราวนี้มีเนื้อแพะด้วย เป็นครั้งแรกที่เราจะได้กินเนื้อสัตว์ในเทรคครั้งนี้ แต่เสียดาย เนื้อแพะค่อนข้างเหนียว มีคนฝรั่งเศสคนนึงในกลุ่มที่ไม่กิน เพราะว่าเค้าเห็นไกด์ซื้อแพะมาตอนมันยังเป็นๆ เพื่อมาทำเป็นอาหารให้ทุกคนในค่ำคืนนี้ พอเราได้ยินอย่างงี้ก็อยากจะกินแต่ผักขึ้นมาเลย แต่ก็ได้ลองชิมเนื้อแพะไปซะละ
Le 5 mai, c’est le dernier jour du festival. Après la cérémonie et le spectacle comme les deux premiers jours, ils se dirigent vers le champ entouré par les montagnes. Et ils continuent la cérémonie comme vous voyez sur les photos.
ในวันที่ 5 พฤษภาคม ถือว่าเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลทิจิแล้ว ซึ่งวันนี้ยิ่งใหญ่กว่าสองวันก่อนหน้านี้ เพราะมีการเดินขบวนกันไปทำพิธี ณ ลานกว้างล้อมรอบไปด้วยภูเขา ตามที่เราเห็นในภาพ
Découverte de la grotte à Konchaling เส้นทางสู่ถ้ำ ณ คอนชาลิง
Nous sommes le 6 mai, le dernier jour à Lo Manthang. Après le petit déjeuner, nous prenez la route pour voir la grotte à Konchaling. Le chemin est idem que Chhoser mais nous prenons la déviation par le village Bachar. La dame avec sa fille qui joue avec du chewing-gum sont toujours là. Je vois le guide assistant parler quelque chose avec une dame âgée. Puis, elle nous guide pour aller à la grotte. Elle n’est pas très bien équipée pour marcher mais elle marche plus vite que nous ! (et j’apprends plus tard qu’elle a 50 ans).. Honte à la jeune femme comme moi lol
วันที่ 6 พฤษภาคม เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่เมืองโลมานตาง เราจึงไปเทรคกันที่คอนชาลิง (Konchaling) เราใช้เส้นทางเดียวกันกับที่ไปเมือง Chhoser แต่เราไปแยกตรงหมู่บ้าน Bachar เราได้เจอผู้หญิงคนที่เตรียมชาให้เราแล้วก็ลูกสาวของเธอที่เล่นหมากฝรั่งเมื่อสามวันก่อนด้วย ผู้ช่วยไกด์ได้คุยกับผู้หญิงอีกคนนึง เราก็ไม่รู้ว่าคุยอะไร แต่ซักพักผู้หญิงคนนี้ก็เดินมากับเราด้วย เราเดาว่าผู้หญิงคนนี้คือไกด์นำทางเราไปที่ถ้ำ Konchaling ดูจากรูปพรรณสัณฐานแล้ว ผู้หญิงคนนี้ดูมีอายุมาก (ซึ่งเราถามอายุแกในภายหลัง ปรากฎว่าป้าแกอายุ 50 ปีแล้ว) แต่ป้าแกเดินนำหน้าเราฉับๆๆ เรียกได้ว่าคนอายุน้อยอย่างเรานี่อายไปเลย
Le chemin vers la grotte n’est pas facile mais rien à dire pour le paysage. À 360°, la vue est magnifique ! Bientôt, nous arrivons à la porte d’entrée, qui est au bord de la falaise. J’ai jamais vu une porte pareille ! Après la porte, le chemin est encore difficile et très dangereux. Il faut être vraiment prudent.
ทางขึ้นไปที่ถ้ำค่อนข้างลำบาก แต่วิวตามทางนั้นสวยงดงามมาก เราไม่สามารถละสายตาจากความงามรอบตัว 360 องศาได้เลย ป้าแกเปิดประตูที่นำเราสู่ทางเดินไปถ้ำ แล้วประตูนั้นก็อยู่ติดกับหน้าผาเลย ดูแปลกตาไปอีกแบบ ทางเดินค่อนข้างอันตราย ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
Je vois beaucoup de drapeaux de prière devant moi à l’arrivée. La grotte est très petite mais ce qui m’intéresse ce sont toutes les peintures murales décrivant les positions du Bouddha. Elles dates à peu près de 1000 ans.
เมื่อเราไปถึงถ้ำแล้วก็เห็นธงสบัดสไวอยู่ข้างหน้า ตัวถ้ำนั้นเล็กมากๆ แต่ที่น่าสนใจคือภาพวาดฝาผนังถ้ำที่มีอายุราว 1,000 ปี เป็นภาพพระพุทธเจ้าในอิริยาบถต่างๆ
Après une dizaine de minutes, nous prenons le chemin du retour à Bachar. Nous faisons une petite pause chez la dame qui nous a servi du thé la dernière fois. Cette fois-ci, elle me fait goûter la sauce pimentée pour manger avec les pommes de terre cuites à la vapeur. C’est assez piquant mais j’adore.
เราอยู่ที่ถ้ำได้ไม่ถึง 10 นาที ก็เดินกลับมาที่ Bachar เราแวะทานชากันที่บ้านหลังเดิม คราวนี้เจ้าของบ้านนำมันฝรั่งนึ่งกับซอสพริกทิเบตมาให้ชิม น้ำพริกทิเบตนี่เผ็ดมากกกกก เราว่านี่แหละคือรสชาติออริจินัลแท้ๆ
Nous rentrons à Lo Manthang à 14h30. La ville retrouve sa tranquillité parce que le festival prend fin et les touristes sont tous partis..
เรากลับมาถึงโลมานตางประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง เรารู้สึกว่าเมืองดูเงียบๆไป ชาวบ้านก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพราะเทศกาลได้เสร็จสิ้นลงแล้ว